AI ทางการแพทย์คืออะไร? Medical AI สำคัญอย่างไรต่อการรักษาในปัจจุบัน
- Marketing Team
- 17 ต.ค.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 17 พ.ย.
AI ทางการแพทย์หรือปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์คืออะไร Medical AI จะประยุกต์ใช้กับระบบ HIS ในด้านใดบ้าง และจะยกระดับธุรกิจเฮลท์แคร์ได้อย่างไรบ้างในอนาคต

Table of Content
Key Takeaways
AI ทางการแพทย์ หรือปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ (Medical AI) คือ การนำเทคโนโลยี AI มาเป็นตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรค เช่น การวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์ การถอดเสียงสนทนาระหว่างแพทย์และผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพให้บุคลากรทางการแพทย์ ลดภาระหน้าที่ด้านงานเอกสาร
Medical AI ช่วยยกระดับระบบ HIS ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้ถอดเสียงสนทนาแพทย์และผู้ป่วยและสร้างเวชระเบียนอัตโนมัติ การช่วยจับคู่รหัสโรค ICD-10 จากบันทึกทางคลินิก ไปจนถึงระบบแนะนำแนวทางวินิจฉัยและรักษา ส่งเสริมการตัดสินใจทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระบบ HIS ที่ทำงานเชื่อมต่อแบบครบวงจร
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม AI ทางการแพทย์ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ (Medical AI) กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของการยกระดับคุณภาพบริการทางสุขภาพในธุรกิจเฮลท์แคร์ ทั้งในโรงพยาบาล คลินิก หรือสถานพยาบาลประเภทอื่น ๆ ในทุกมิติ
ไม่ว่าจะเป็นบริหารจัดการภายในโรงพยายาลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การตรวจวินิจฉัยโรค และเพิ่มประสบการณ์เข้ารับบริการที่ดีแก่ผู้ป่วย สำหรับ AI ทางการแพทย์ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง MEDcury รวมความรู้ดี ๆ มาฝากทุกคนกัน
AI ทางการแพทย์คืออะไร?

AI ทางการแพทย์ หรือปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ (Medical AI) คือ การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มาเป็นตัวช่วยอัจฉริยะให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการวินิจฉัยโรค การรักษา การบริหารจัดการในโรงพยาบาล หรือแม้แต่การดูแลสุขภาพผู้ป่วยจากระยะไกล ซึ่งช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็ว แม่นยำมากขึ้น ส่งผลดีต่อการรักษาผู้ป่วยโดยตรง
ประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์มีอะไรบ้าง?

1. ลดภาระงานแพทย์และพยาบาล
AI ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์บันทึกข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น เช่น การบันทึกเวชระเบียน การสืบค้นข้อมูลผู้ป่วย หรือการสรุปรายงานทางการแพทย์ ซึ่งช่วยลดภาระงานเอกสารของแพทย์และพยาบาล ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีเวลามากขึ้นในการดูแลผู้ป่วยโดยตรง ลดความเหนื่อยล้า และเพิ่มคุณภาพในการบริการ
2. เพิ่มความรวดเร็วในการวินิจฉัย ลดข้อผิดพลาด
ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล AI จึงสามารถวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์ เช่น เอกซเรย์หรือ CT scan ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง และช่วยแพทย์ตัดสินใจวินิจฉัยโรคได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ซับซ้อนหรือมีข้อมูลจำนวนมาก ส่งผลให้ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากความเหนื่อยล้าหรือข้อจำกัดของมนุษย์
3. ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็ว แม่นยำขึ้น
AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและให้คำแนะนำเบื้องต้นได้ทันที ทำให้กระบวนการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาเร็วขึ้น ผู้ป่วยจึงเริ่มต้นการรักษาได้โดยไม่ต้องรอขั้นตอนที่ซับซ้อนหรือใช้เวลานาน ส่งผลให้ลดระยะเวลารอคอย และเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวเร็วขึ้น
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ทางการแพทย์มีอะไรบ้าง?
1. AI ถอดเสียงสนทนาระหว่างแพทย์และผู้ป่วย
เพราะการซักถามอาการระหว่างแพทย์และผู้ป่วย เป็นขั้นตอนสำคัญในการวินิจฉัยโรค โดยหลังจากสอบถามอาการเบื้องต้นแล้ว แพทย์จะต้องบันทึกอาการของผู้ป่วยลงในระบบ HIS (Hospital Information System) ดังนั้นหากบันทึกข้อมูลคลาดเคลื่อนก็จะส่งผลให้การดูแลผู้ป่วยผิดพลาดได้
ดังนั้น AI ทางการแพทย์จึงเข้ามาเป็นตัวช่วยในการฟังและถอดเสียงสนทนาระหว่างแพทย์และผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ รวมถึงสรุปเวชระเบียนเบื้องต้นแบบอัตโนมัติ โดยแพทย์ไม่ต้องกรอกข้อมูลทีละช่อง ช่วยลดเวลาการบันทึกข้อมูล ทำให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์มีสมาธิกับกระบวนการรักษาและสื่อสารกับผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลกับขั้นตอนการบันทึกข้อมูล
เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic Medical Record (EMR) เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ทำงานคู่กับ Medical AI ด้านการถอดเสียงบทสนทนา เป็นเครื่องมือบันทึกข้อมูลผู้ป่วย โดยไม่ต้องใช้กระดาษ สำหรับเทคโนโลยีนี้จะน่าสนใจตรงไหน ตามไปอ่านต่อได้ที่ EMR กับ EHR ต่างกันอย่างไร?
2. AI วิเคราะห์ภาพเอกซเรย์และผลตรวจ
ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัย และนำมาประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ภาพเอกซเรย์ ซีทีสแกน (CT Scan) หรือ MRI โดยมี AI ทางการแพทย์เป็นผู้ช่วยแพทย์ระบุความผิดปกติ เช่น ก้อนเนื้อ ปอดติดเชื้อ หรือภาวะเลือดออกในสมอง
3. AI ช่วยแพทย์วินิจฉัยโรคแม่นยำยิ่งขึ้น
ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ไม่ได้เข้ามาแทนที่การวินิจฉัยของแพทย์ แต่ช่วยเสนอข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอ้างอิงจากประวัติผู้ป่วย ข้อมูลเวชระเบียน และผลตรวจต่าง ๆ ลดข้อผิดพลาดในการวินิจฉัย โดยเฉพาะกรณีการวินิจฉัยโรคที่ต้องพิจารณาข้อมูลจำนวนมากภายใต้เวลาจำกัด ซึ่งช่วยให้การวินิจฉัยเป็นไปอย่างแม่นยำมากขึ้น
4. การใช้ AI ในการบริหารจัดการโดยรวม
นอกจากงานด้านการวินิจฉัยโรคและลดภาระการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์แล้ว AI ทางการแพทย์ยังนำมาใช้บริหารจัดการสถานพยาบาลโดยรวมได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบจุดคิวผู้ป่วย การวางแผนทรัพยากรบุคคล ระบบจองห้องผ่าตัดหรือห้องปฏิบัติการ ไปจนถึงจัดลำดับความสำคัญของเคสต่าง ๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในภาพรวม
5. พัฒนาคุณภาพบริการและประสบการณ์ของผู้ป่วย
สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรทางการแพทย์แล้ว AI ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ป่วยที่มารับบริการ โดย AI ช่วยปรับแต่งการสื่อสารให้สะดวกสบายมากขึ้น เช่น ระบบแชตบอททางการแพทย์ที่ให้คำแนะนำเบื้องต้น ตอบคำถามเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนตรวจหรือข้อมูลสุขภาพ ช่วยลดความกังวลของผู้ป่วย และให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่เพิ่มภาระให้กับเจ้าหน้าที่
การใช้ AI ทางการแพทย์ยกระดับระบบ HIS

Medical AI มีบทบาทในพัฒนาและยกระดับระบบสารสนเทศโรงพยาบาล หรือระบบ HIS (Hospital Information System) ให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและตอบโจทย์การดูแลผู้ป่วยยุคใหม่มากขึ้น โดยปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ช่วยเสริมศักยภาพของระบบ HIS ในหลายด้าน ตัวอย่างเช่น
1. Medical AI ช่วยระบุและบันทึกรหัส ICD-10
โดยทั่วไปแพทย์จะเป็นผู้ระบุรหัสโรค หรือ ICD-10 ลงในระบบ HIS ซึ่งจะส่งผลต่อการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล โดยทั่วไปจะต้องบันทึกรหัสโรคร่วมกับรายละเอียดการวินิจฉัย ซึ่งรายละเอียดอาจคลาดเคลื่อนได้ หากไม่ได้บันทึกแบบเรียลไทม์
Medical AI จึงเข้ามามีบทบาทในการแปลงคำวินิจฉัยหรือคำอธิบายของแพทย์ เป็นคำอธิบายมาตรฐาน พร้อมแนะนำรหัสโรค ICD-10 ที่เหมาะสม โดยอาจทำงานแบบอัตโนมัติ หรือเป็นตัวเลือกให้กับแพทย์ ช่วยลดเวลาการบันทึกข้อมูล และลดความผิดพลาดในการเบิกจ่ายจากการกรอกรหัส ICD-10 ผิด
2. AI ถอดเสียงบทสนทนาและบันทึกเวชระเบียนอัตโนมัติ
Medical AI เป็นตัวช่วยสำคัญในการลดเวลาด้านงานเอกสาร โดยเฉพาะการทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ด้านการฟังและบันทึกลงข้อมูลลงในระบบ โดยการเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์กับระบบ HIS เช่น
Ambient Listening การฟังบทสนทนาระหว่างแพทย์และคนไข้แบบเรียลไทม์ โดยใช้เทคโนโลยี Automatic Speech Recognition (ASR) และ Natural Language Processing (NLP) เพื่อแปลงเสียงพูดระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยเป็นเวชระเบียนเบื้องต้นโดยอัตโนมัติ
Predictive Risks AI การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย เช่น ประวัติการรักษา ผลตรวจ และพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงโรคล่วงหน้า เช่น ความเสี่ยงหัวใจล้มเหลว ภาวะติดเชื้อ หรือการกลับเข้ารักษาซ้ำ
AI Suggestions ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Clinical Decision Support System) โดย แนะนำการวินิจฉัยที่เป็นไปได้ หรือแนวทางการรักษาที่เหมาะสมตามแนวทางเวชปฏิบัติ รวมถึงข้อมูลย้อนหลังของผู้ป่วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI ทางการแพทย์
1. AI ทางการแพทย์คืออะไร?
AI ทางการแพทย์ หรือปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ (Medical AI) คือ การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาเป็นผู้ช่วยแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ในกระบวนการวินิจฉัย รักษา บันทึกข้อมูล และบริหารจัดการระบบสุขภาพ เช่น การถอดเสียงแพทย์และสร้างเวชระเบียนอัตโนมัติ การแนะนำการดูแลผู้ป่วย
2. AI ทางการแพทย์ช่วยแพทย์ได้อย่างไร?
AI ทางการแพทย์ช่วยแพทย์ได้หลายด้าน เช่น การสรุปเวชระเบียนจากเสียงสนทนาอัตโนมัติ การวิเคราะห์ภาพรังสีเพื่อคัดกรองเคสที่มีความเสี่ยง การคาดการณ์แนวโน้มโรคล่วงหน้า และการจัดลำดับความสำคัญของผู้ป่วยในระบบโรงพยาบาล ซึ่งช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน เพิ่มความรวดเร็วในการวินิจฉัย และช่วยให้แพทย์โฟกัสกับการดูแลผู้ป่วยได้มากขึ้น
3. AI ทางการแพทย์ปลอดภัยหรือไม่?
หากออกแบบและใช้งานภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด AI ทางการแพทย์ถือเป็นตัวช่วยแพทย์ที่ปลอดภัย โดยจะต้องตรวจสอบประสิทธิภาพ วัดความแม่นยำในบริบทจริง และมีระบบตรวจสอบความผิดพลาด รวมถึงการทำงานภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์เสมอ และยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
4. ปัญญาประดิษฐ์จะมาแทนที่แพทย์หรือไม่?
AI ไม่สามารถมาแทนแพทย์ได้ เพราะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อแทนที่แพทย์ แต่ Medical AI จะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยเสริมศักยภาพของแพทย์ ให้ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้นและรวดเร็วขึ้น โดย AI จะทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก รวบรวมข้อมูลเบื้องต้น หรือเสนอแนวทางวินิจฉัยเบื้องต้น แต่การตัดสินใจสุดท้ายยังคงอยู่ในมือของแพทย์เสมอ
5. โรงพยาบาลในไทยเริ่มใช้ AI ทางการแพทย์แล้วหรือยัง?
โรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทยเริ่มนำ AI มาใช้งานจริงแล้ว เช่น AI จัดคิวตรวจสุขภาพ AI วิเคราะห์ฟิล์มเอกซเรย์ และ ใช้ AI ถอดเสียงการสนทนาแพทย์และผู้ป่วยเพื่อสรุปเวชระเบียน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า AI ทางการแพทย์ไม่ใช่อนาคตที่ห่างไกล แต่เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นจริงในระบบสุขภาพไทย
MEDHIS ระบบสารสนเทศโรงพยาบาลที่ยกระดับด้วย Medical AI
MEDHIS ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (Hospital Information System – HIS) ที่ออกแบบ และพัฒนาโดย MEDcury เพื่อรองรับการทำงานทั้งในระดับผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ครอบคลุมฟังก์ชันการทำงานที่จำเป็นในทุกแผนกของสถานพยาบาล พร้อมตอบโจทย์ยุค Healthcare 5.0 ด้วยการวางโครงสร้างระบบที่พร้อมผสานการทำงานร่วมกับ Medical AI
ด้วยประสบการณ์ติดตั้งและดูแลระบบ HIS ให้กับสถานพยาบาลกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ และทีมพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกว่า 10 ปี MEDcury จึงไม่เพียงพัฒนาระบบที่มีความเสถียรและปลอดภัย แต่ยังเตรียมพร้อมสำหรับ การผนวกเทคโนโลยี AI เพื่อเสริมศักยภาพในด้านต่าง ๆ เช่น
AI ถอดเสียงและสร้างเวชระเบียนอัตโนมัติ (Ambient Listening)
AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงผู้ป่วยล่วงหน้า (Predictive Risks)
AI ช่วยแนะนำแนวทางวินิจฉัยและรักษา (AI Suggestions & Decision Support)
AI จับคู่รหัสโรค ICD-10/ICD-9 อย่างแม่นยำจากบันทึกทางคลินิก
สถานพยาบาลหรือธุรกิจเฮลท์แคร์ที่กำลังมองหาระบบ HIS ที่พร้อมรองรับการเติบโตในยุคดิจิทัล และเปิดรับศักยภาพใหม่ ๆ จากเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก MEDcury ยินดีให้คำปรึกษา ทั้งด้านเทคนิคและการปรับใช้ระบบให้เข้ากับบริบทของสถานพยาบาล ติดต่อเราเพื่อพูดคุยกับทีมของเราได้โดยตรงที่
โทรศัพท์ : 02-853-9131 (ในเวลาทำการ 10:00 - 18:00 น. วันจันทร์ - วันศุกร์)
อีเมล : sales@medcury.health
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MEDcury จากช่องทางอื่น
Facebook : facebook.com/medcury.health/
LinkedIn : linkedin.com/company/medcury
YouTube : https://www.youtube.com/@MEDcury



