
ในปัจจุบันหลาย ๆ องค์กรได้พัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีด้านระบบข้อมูล เช่น Health Information Exchange (HIS), Health Information Exchange (HIE) เป็นต้น หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมไปถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ
ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายข้อมูลจากแต่ละเทคโนโลยีก็จะถูกนำมาใช้ควบคู่กันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของโรงพยาบาล แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น โรงพยาบาลจะต้องเจอกับปัญหาสุดเบสิคก่อนนั่นก็คือเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ เนื่องจากแต่ละเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นโดยคนละองค์กร แล้วโรงพยาบาลจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร วันนี้ MEDcury จะมาอธิบายให้ฟัง ตามมาดูกันเลย!
เราจะสามารถเชื่อมต่อเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างไร ?
เมื่อแต่ละระบบหรือแอปพลิเคชันถูกพัฒนาโดยคนละองค์กรเช่นนี้ เราจะทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ด้วย Application Programming Interface หรือ API ดังนั้นไม่ว่าซอฟต์แวร์เหล่านั้นจะถูกสร้างขึ้นโดยคนละองค์กร ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาหรือระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน หรือแม้แต่อยู่กันคนละมุมโลก เราก็ยังสามารถเรียกใช้งานมันได้นั่นเอง
ตัวอย่างเช่น :
บริษัท A พัฒนาซอฟต์แวร์ A แต่ต้องการฟีเจอร์บางอย่างจากซอฟต์แวร์ B ของบริษัท B ที่เชี่ยวชาญและทำผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน เพื่อมาเสริมความแข็งแกร่งของซอฟต์แวร์ของตนเอง บริษัท A ก็เลยทำ API เพื่อเรียกขอบริการให้ซอฟต์แวร์ A กับซอฟต์แวร์ B เชื่อมต่อและสื่อสารกันได้นั่นเอง
แค่มี API ก็สามารถเชื่อมต่อทุกเทคโนโลยีได้เลยหรือไม่ ?
จริง ๆ ต้องบอกว่าทุกอย่างไม่ได้ง่ายขนาดนั้น โดยเฉพาะเมื่อต่างคนต่างสร้างซอฟต์แวร์ขึ้นมาเช่นนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือโครงสร้างของข้อมูลจากแต่ละเทคโนโลยีนั้นจะมีความแตกต่างกัน หากจะนำมาใช้ ผู้เรียกใช้ก็จะต้องทำการปรับแต่งโปรแกรมเพื่อดึงข้อมูลจาก API แต่ละแห่ง แล้วลองคิดดูสิว่าถ้ามีข้อมูลอยู่ 100 รูปแบบ แสดงว่าเราก็ต้องปรับถึง 100 ครั้งเลยทีเดียวเชียว และนี่ยังไม่นับกรณีมีการเปลี่ยนแปลงจาก API ต้นทางด้วยนะ
ซึ่งถ้าหากเป็นแบบนี้คงยุ่งยากและใช้เวลานานมากแน่ ๆ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องใช้มาตรฐานโครงสร้างข้อมูลเข้ามาช่วย เพื่อให้ข้อมูลจากทุกฝ่ายมีโครงสร้างที่ใกล้เคียงกันมากที่สุดเมื่อส่งผ่าน API เพื่อลดภาระงานในขั้นตอนนี้ไปนั่นเอง
มาตรฐานโครงสร้างข้อมูล HL7 FHIR คืออะไร ?
HL7 FHIR (Fast Healthcare Interoperability Resources) คือหนึ่งในมาตรฐานสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ถือเป็นมาตรฐานที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกจากจะครอบคลุมถึงข้อมูลด้านการรักษาพยาบาล เช่น ประวัติผู้ป่วย ผลการวินิจฉัย ผลแล็บ นัดหมาย การสั่งยา เป็นต้น ซึ่ง HL7 FHIR ยังครอบคลุมไปถึงด้านการเงินและการจัดการของโรงพยาบาลอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการใช้ API และมาตรฐาน HL7 FHIR เพื่อเชื่อมต่อเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าด้วยกันนั้นเปรียบเสมือนการต่อชิ้นส่วนเลโก้เข้าด้วยกัน หากเลือกตัวต่อจากคนละเซ็ตอาจจะมีตัวที่ต่อได้ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่ดี แต่ถ้าเราใช้ทั้ง API และมาตรฐาน HL7 FHIR เทคโนโลยีทางการแพทย์ต่าง ๆ ก็จะสามารถสื่อสารระหว่างกันได้อย่างไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพนั่นเอง
คราวหน้า MEDcury จะพาคุณไปรู้จักกับมาตรฐาน HL7 FHIR กันมากขึ้น รวมถึงเราจะมาบอกแนวทางการนำ HL7 FHIR มาประยุกต์ใช้ในโรงพยาบาลด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมกดติดตามเพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดคอนเทนต์ใหม่ ๆ จากพวกเราได้ที่
โทรศัพท์ : 02-853-9131 (ในเวลาทำการ 10:00 - 18:00 น. วันจันทร์ - วันศุกร์)
อีเมล : sales@medcury.health หรือกรอกแบบฟอร์มคลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MEDcury จากช่องทางอื่น
Facebook : facebook.com/medcury.health/
LinkedIn : linkedin.com/company/medcury
YouTube : https://www.youtube.com/@MEDcury