top of page

Smart Hospital คืออะไร? สำคัญอย่างไรต่ออนาคตทางการแพทย์

  • รูปภาพนักเขียน: Marketing Team
    Marketing Team
  • 17 พ.ย.
  • ยาว 3 นาที

ทำความรู้จัก Smart Hospital การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้และพัฒนาการทำงานในโรงพยาบาลให้สะดวก รวดเร็ว ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้รวดเร็วแม่นยำ และยกระดับประสบการณ์ที่ดีของผู้ป่วยขึ้นอีกขั้น


Table of Contents


Smart hospital concept showing digital medical equipment and automated patient monitoring system | ภาพแนวคิดโรงพยาบาลอัจฉริยะพร้อมอุปกรณ์แพทย์ดิจิทัลและระบบติดตามผู้ป่วยอัตโนมัติ

Key Takeaways 


  • Smart Hospital คือ การผสานเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ระบบ HIS, AI, IoT, Telemedicine ไปจนถึงระบบ Self Check-in เพื่อให้กระบวนการดูแลผู้ป่วยปลอดภัย แม่นยำ รับการรักษาได้เร็ว และยังลดภาระงานเอกสารของแพทย์อีกด้วย


  • ระบบ HIS ถือเป็นหัวใจสำคัญของ Smart Hospital เพราะเป็นศูนย์กลางที่รวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยจากทุกแผนกเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ พร้อมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT หรือ Wearable Device รวมถึงพร้อมเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ เพื่อพัฒนาโรงพยาบาลอัจฉริยะอย่างสมบูรณ์


Smart Hospital ถือเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับวงการสาธารณสุข ซึ่งช่วยให้การทำงานของบุคลากรทางแพทย์สะดวกสบาย วินิจฉัยและรักษาโรคได้รวดเร็วขึ้น ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีระบบ HIS เป็นหัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน โดยองค์ประกอบของ Smart Hospital มีอะไรบ้างนั้น MEDcury ได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน


Smart Hospital คืออะไร?

Laptop displaying digital medical dashboard with patient scans and health data in a clinic office | แล็ปท็อปแสดงแดชบอร์ดข้อมูลทางการแพทย์และภาพสแกนผู้ป่วยภายในห้องตรวจ

Smart Hospital คือ โรงพยาบาลที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาผสานในทุกขั้นตอนของการบริหารจัดการและดูแลผู้ป่วย ตั้งแต่ระบบข้อมูลสุขภาพ (Hospital Information System: HIS) ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (EHR/EMR) ไปจนถึงการใช้ AI, IoT, Cloud Computing และ FHIR HL7 เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแพทย์ หน่วยงาน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ


องค์ประกอบหลักของ Smart Hospital มีอะไรบ้าง?

1. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (Hospital Information System)

ระบบ Hospital Information System (HIS) หรือระบบสารสนเทศโรงพยาบาล เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของการสร้าง Smart Hospital เป็นระบบที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วย กระบวนการรักษา และการบริหารงานทั้งหมดไว้ในที่เดียว 


รวมถึงยังมีมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่าง FHIR HL7 จึงทำให้ข้อมูลจากแผนกต่าง ๆ เช่น ห้องตรวจ ห้องแล็บ เภสัชกรรม การนัดหมาย หรือคลินิกเฉพาะทาง เข้าถึงได้แบบเรียลไทม์ ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล ลดความผิดพลาดจากการส่งต่อเอกสาร ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้น


2. การใช้ AI และ Big Data ในการวิเคราะห์สุขภาพ

การนำ AI และ Big Data มาใช้งาน จะช่วยให้โรงพยาบาลนำข้อมูลจำนวนมากมาวิเคราะห์แนวโน้มสุขภาพของผู้ป่วย ช่วยประเมินความเสี่ยง และเป็นหนึ่งในตัวช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้มีประสิทธิภาพขึ้น 


นอกจากนี้ AI ยังเป็นตัวช่วยแนะนำการรักษาเบื้องต้น ตรวจจับความผิดปกติจากภาพทางการแพทย์ และช่วยวางแผนทรัพยากรของโรงพยาบาลได้คุ้มค่า ตอบโจทย์การสร้าง Smart Hospital ในระยะยาว


3. Telemedicine & Virtual Care (การแพทย์ทางไกล)

Telemedicine หรือการนำเทคโนโลยีการสื่อสาร เช่น วิดีโอคอล แชต หรือโทรศัพท์ มาเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ให้บริการดูแลสุขภาพได้ โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาล ช่วยลดความแออัดของแผนก OPD และเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้สะดวกยิ่งขึ้น 


Elderly couple using a tablet for a telemedicine video consultation with a doctor | คู่ผู้สูงอายุใช้แท็บเล็ตปรึกษาแพทย์ผ่านวิดีโอแบบ Telemedicine

4. IoT และอุปกรณ์ทางการแพทย์อัจฉริยะ

อุปกรณ์ IoT (Internet of things) ทางการแพทย์ คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ Smart Hospital ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะช่วยเก็บข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องและแม่นยำ ลดปัญหาการบันทึกข้อมูลด้วยมือที่อาจเกิดความผิดพลาด โดยอุปกรณ์ IoT ที่เห็นได้บ่อย เช่น 


  • เครื่องวัดสัญญาณชีพ (Vital Sign Monitors) อุปกรณ์วัดค่าสัญญาณชีพต่าง ๆ เช่น เช่น อุณหภูมิ ความดันโลหิต ชีพจร อัตราการหายใจ หรือระดับออกซิเจนในเลือด และส่งข้อมูลเข้าระบบอัตโนมัติทันที

  • เตียงผู้ป่วยอัจฉริยะ (Smart Bed) เตียงที่มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย เช่น ระบบเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ระบบควบคุมและปรับระดับเตียงอัตโนมัติ ไปจนถึงการติดตามสัญญาณชีพต่าง ๆ

  •  อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Devices) อุปกรณ์สวมใส่ เช่น Smart Watch หรือเครื่องติดตามการเต้นของหัวใจ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน อุปกรณ์จะช่วยเก็บข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยทั้งที่โรงพยาบาลและที่บ้าน ติดตามอาการได้อย่างต่อเนื่องยิ่งขึ้น

  • เครื่องมือแพทย์ที่ส่งข้อมูลอัตโนมัติได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจวัดแบบเฉพาะทาง สามารถส่งข้อมูลการทำงานเข้าสู่ระบบ HIS โดยตรง ทำให้ทีมแพทย์รู้สถานะผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ ส่งเสริมการตัดสินใจในภาวะฉุกเฉินอย่างแม่นยำ


5. ระบบจัดการผู้ป่วยอัตโนมัติ

ระบบ Self Check-in และ Smart Queue ช่วยจัดการผู้ป่วยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ป่วยเข้ารับบริการได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยผู้ป่วยจะลงทะเบียน แจ้งอาการ และรับคิวผ่านตู้ Kiosk หรือแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟนได้เอง ลดเวลารอคอยและลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ 


เมื่อข้อมูลเข้าสู่ระบบ HIS แล้วะก็จะส่งไปยังแผนกต่างๆ ได้ทันที เช่น แผนก OPD ส่งข้อมูลให้แพทย์ หรือจัดลำดับคิวตามระดับความเร่งด่วน ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ที่ดีของผู้ป่วยในการเข้ารับบริการขึ้นอีกระดับ


6. ระบบความปลอดภัยและการจัดการข้อมูลผู้ป่วย

Smart Hospital ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลในระดับสูงสุด ระบบต้องมีโครงสร้างด้าน Cybersecurity ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น การเข้ารหัส การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง และการจัดการสิทธิ์ตามบทบาทหรือตำแหน่งงาน เพื่อลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหล 


นอกจากนี้การปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น FHIR HL7 รวมถึงนโยบาย Data Governance ทำให้ Smart Hospital บริหารข้อมูลอย่างเป็นระบบ น่าเชื่อถือ และสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


ทำไมระบบ HIS ถึงเป็นหัวใจหลักของ Smart Hospital

หน้าที่ของระบบ HIS

รายละเอียด

ประโยชน์ต่อโรงพยาบาล

ศูนย์กลางข้อมูลผู้ป่วย

ระบบ HIS รวมข้อมูลจากทุกแผนกไว้ในระบบเดียว ทั้งห้องตรวจ แล็บ เภสัชกรรม นัดหมาย และประวัติการรักษา

  • แพทย์เข้าถึงข้อมูลครบถ้วน

  •  ลดความผิดพลาด 

  • เพิ่มคุณภาพการรักษา

เป็นฐานข้อมูลสำคัญสำหรับ AI และ Big Data

ระบบ HIS จัดเก็บข้อมูลที่เป็นพื้นฐาน สำหรับนำไปใช้งานวิเคราะห์เชิงลึก และพัฒนา AI ภายในโรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลใช้ AI เป็นผู้ช่วย 

  • ประเมินความเสี่ยงผู้ป่วย

  • วางแผนทรัพยากร 

  • ดูแลผู้ป่วยเชิงรุก

เชื่อมต่อระบบต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น

รองรับมาตรฐาน FHIR HL7 ทำให้ Telemedicine, IoT, Smart Queue, ERP และระบบอื่น ๆ เชื่อมต่อได้สะดวก

  • ข้อมูลเชื่อมโยงระหว่างแผนกแบบ Real-time 

  • ลดงานแยกส่วน ลดเวลาเดินเอกสาร

  • สร้าง Smart Hospital ที่ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน

สนับสนุนการตัดสินใจทางการแพทย์

ลดเวลาเดินเอกสาร ช่วยให้แพทย์เข้าถึงประวัติการรักษาของผู้ป่วยได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินหรือผู้ป่วยวิกฤตที่ข้อมูลต้องอัปเดตตลอด

  • การวินิจฉัยเร็วขึ้น แม่นยำขึ้น 

  • ลดเวลาการทำงานเอกสารของบุคลากรทางการแพทย์

เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ

ระบบอัตโนมัติ ลดความซ้ำซ้อน และจัดการข้อมูลเป็นระบบเดียว

  • ลดต้นทุนในระยะยาว 

  • ใช้ทรัพยากรคุ้มค่ามากขึ้น

  • ยกระดับประสบการณ์ผู้ป่วย


ประโยชน์ของ Smart Hospital ต่อผู้ป่วยและธุรกิจเฮลท์แคร์มีอะไรบ้าง?

Two medical professionals discussing patient information using a digital tablet in a hospital setting | บุคลากรทางการแพทย์สองคนหารือข้อมูลผู้ป่วยโดยใช้แท็บเล็ตภายในโรงพยาบาล

1. เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษา

Smart Hospital ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ เข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยได้ครบถ้วนและทันเวลา ไม่ว่าจะเป็นบันทึกการวินิจฉัย ผลแล็บ แผนการรักษา หรือประวัติการใช้ยา ช่วยให้วินิจฉัยได้เร็วขึ้น และการเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ยังช่วยให้ติดตามอาการผู้ป่วยต่อเนื่องได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยวิกฤตหรือผู้ป่วยโรคเรื้อรัง


2. ลดเวลาและความซับซ้อนในการเข้ารับบริการ

ด้วยระบบอัตโนมัติอย่างการลงทะเบียนแบบ Self Check-in การใช้ Smart Queue หรือระบบนัดหมายออนไลน์ ผู้ป่วยจึงไม่ต้องเสียเวลารอคิวนานเหมือนในอดีต ข้อมูลทุกอย่างเชื่อมกับ HIS แบบอัตโนมัติ ทำให้กระบวนการเข้ารับบริการเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดภาระของเจ้าหน้าที่และลดความแออัดในโรงพยาบาล


3. ยกระดับประสบการณ์ผู้ป่วย (Patient Experience)

Smart Hospital ช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ป่วยในการเข้ารับบริการ ทั้งสะดวก รวดเร็ว และเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดตามผลตรวจผ่านแอปพลิเคชัน การสื่อสารกับแพทย์ผ่าน Telemedicine รวมถึงการรับข้อมูลสุขภาพที่ปลอดภัย เข้าใจง่าย และอัปเดตอยู่เสมอ ทำให้ผู้ป่วยมั่นใจในการเข้าใช้บริการในโรงพยาบาลมากขึ้น


4. ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโรงพยาบาล

ระบบ Smart Hospital ช่วยให้โรงพยาบาลบริหารทรัพยากรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น จัดการเตียงผู้ป่วย การใช้ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ และกำลังคนได้อย่างเหมาะสม โดยใช้ข้อมูลที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้า 


นอกจากนี้ระบบอัตโนมัติและข้อมูลที่แม่นยำช่วยลดความซ้ำซ้อน ลดงานเอกสาร และช่วยให้บุคลากรมุ่งเน้นไปที่งานดูแลผู้ป่วยมากขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพทางธุรกิจในระยะยาว


ความท้าทายในการพัฒนา Smart Hospital มีอะไรบ้าง?

IT technician using a tablet to monitor system data inside a technology control room | ช่างเทคนิคไอทีใช้แท็บเล็ตเพื่อตรวจสอบข้อมูลระบบภายในห้องควบคุมเทคโนโลยี

1. ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ป่วย (Data Privacy & Cybersecurity)

หนึ่งในความท้าทายสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ Smart Hospital คือการปกป้องข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย ซึ่งเป็นข้อมูลที่อ่อนไหวมาก การเชื่อมต่อระบบและอุปกรณ์จำนวนมาก เช่น ระบบ HIS อุปกรณ์ IoT Telemedicine และระบบบันทึกเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ มักตามมาด้วยความเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์


แผนที่จำเป็น: โรงพยาบาลจำเป็นต้องมีระบบความปลอดภัยหลายชั้น เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การควบคุมสิทธิ์เข้าถึง และมาตรฐานด้าน Cybersecurity ที่เข้มงวด เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ


2. การลงทุนด้านเทคโนโลยีและบุคลากร

การพัฒนา Smart Hospital ต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โครงสร้างพื้นฐานทาง IT ระบบ Cloud, Data Platform, ระบบ AI รวมถึงอุปกรณ์ IoT ซึ่งต้องการงบประมาณและการวางแผนพัฒนาระบบในระยะยาว 


อีกทั้งยังต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ด้านดิจิทัล เช่น นักวิเคราะห์ข้อมูล แพทย์ที่คุ้นเคยกับระบบเทคโนโลยี และทีมไอทีที่มีประสบการณ์ การลงทุนเหล่านี้จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับโรงพยาบาลที่ต้องการยกระดับบริการสู่ Smart Hospital อย่างเต็มรูปแบบ


3. การปรับตัวของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย

นอกจากระบบ HIS และอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ แล้ว บุคลากรก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยพัฒนา Smart Hospital โดยบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล จะต้องเรียนรู้วิธีใช้ระบบ HIS แบบใหม่ การอ่านข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT หรือการประยุกต์ใช้ AI กับการวินิจฉัย 


ขณะที่ผู้ป่วยเองก็ต้องปรับตัวกับการเข้ารับบริการที่เป็นอัตโนมัติมากขึ้น เช่น การลงทะเบียนแบบ Self Check-in หรือการใช้ Telemedicine การสร้างความยอมรับและความเข้าใจจึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญที่โรงพยาบาลต้องให้ความสำคัญ


ระบบ MEDHIS โดย MEDcury ถือเป็นระบบที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบให้มีหน้าตาที่ใช้งานง่าย และรองรับการใช้งานในอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน ช่วยยกระดับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ขึ้นอีกขั้น



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Smart Hospital

1. Smart Hospital คืออะไร แตกต่างจากโรงพยาบาลทั่วไปอย่างไร?

Smart Hospital คือ โรงพยาบาลที่นำเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ระบบ HIS, AI, IoT, Telemedicine และ Data Platform มาเชื่อมต่อกระบวนการทำงานทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

2. Smart Hospital มีอะไรบ้าง?

Smart Hospital ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายด้าน ซึ่งจะทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลผู้ป่วยในทุกขั้นตอน เช่น


  • ระบบ Hospital Information System (HIS)

  • การวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI และ Big Data

  • Telemedicine และบริการทางการแพทย์ออนไลน์

  • อุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์

  • ระบบอัตโนมัติ เช่น Self Check-in และ Smart Queue

  • ระบบความปลอดภัยของข้อมูลและ Cybersecurity

3. Smart Hospital ช่วยผู้ป่วยและหมออย่างไร?

สำหรับผู้ป่วย Smart Hospital ช่วยให้เข้ารับบริการได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น และได้รับข้อมูลเรียลไทม์ ขณะที่แพทย์เข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยครบทุกมิติ ลดความผิดพลาด และตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น ระบบอัตโนมัติและข้อมูลที่เชื่อมโยงกันยังช่วยลดภาระงานเอกสาร ทำให้แพทย์มีเวลาให้ผู้ป่วยมากขึ้น

4. ประเทศไทยมี Smart Hospital แล้วหรือยัง?

ประเทศไทยมีหลายโรงพยาบาลที่เริ่มนำเทคโนโลยี Smart Hospital มาใช้แล้ว เช่น ระบบ HIS รุ่นใหม่ที่รองรับมาตรฐาน FHIR HL7 การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ระบบคิวอัจฉริยะ และอุปกรณ์ IoT ในหอผู้ป่วยไอซียู


MEDHIS ระบบที่ช่วยยกระดับสถานพยาบาลสู่ Smart Hospital

MEDHIS hospital information system interface showing workflow, patient records, and medical device connectivity | อินเทอร์เฟซระบบสารสนเทศโรงพยาบาล MEDHIS แสดงเวิร์กโฟลว์ เวชระเบียน และการเชื่อมต่ออุปกรณ์การแพทย์

MEDHIS ระบบสารสนเทศโรงพยาบาลที่ออกแบบและพัฒนาโดย MEDcury รองรับการทำงานของโรงพยาบาลทุกขนาด รวมถึงสถานพยาบาลประเภทอื่น ๆ ในธุรกิจเฮลท์แคร์ มาพร้อมคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การพัฒนา Smart Hospital ไม่ว่าจะเป็น


  • Full EMR system เชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยทุกแผนกด้วยระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร เพื่อให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ลดการทำงานซ้ำซ้อนและข้อผิดพลาดในการรักษา

  • Web-based & Cloud Native รองรับการทำงานบนระบบ Web-based และ Cloud Native ตอบโจทย์การใช้งานของ Smart Hospital ที่ต้องการความยืดหยุ่น ปลอดภัย และรองรับการเติบโตในอนาคต

  • Web Responsive ออกแบบระบบให้ใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ตโฟน เข้าถึงข้อมูลเวชระเบียนได้สะดวก ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้น

  • Paperless Transformation เปลี่ยนผ่านสู่โรงพยาบาลไร้กระดาษ (Paperless Hospital) ด้วยระบบจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร ลดการใช้กระดาษ ลดความเสี่ยงจากการจัดเก็บเอกสารแบบเดิม และเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา แบ่งปัน และส่งต่อข้อมูลภายในโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย


สถานพยาบาลหรือธุรกิจเฮลท์แคร์ที่กำลังมองหาระบบ HIS ที่พร้อมรองรับการเติบโตในยุคดิจิทัล และเปิดรับศักยภาพใหม่ ๆ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก MEDcury พร้อมให้คำปรึกษา ทั้งด้านเทคนิคและการปรับใช้ระบบให้เข้ากับบริบทของสถานพยาบาล ติดต่อเราเพื่อพูดคุยกับทีมของเราได้โดยตรงที่



โทรศัพท์ : 02-853-9131 (ในเวลาทำการ 10:00 - 18:00 น. วันจันทร์ - วันศุกร์)

อีเมล: sales@medcury.health 


ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MEDcury จากช่องทางอื่น



bottom of page