ระบบ HIE ในโรงพยาบาล: อนาคตของการจัดการข้อมูลในโรงพยาบาล
- Marketing Team
- 25 พ.ย.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
ทำความรู้จักระบบ HIE (Health Information Exchange) คืออะไร ช่วยยกระดับวงการสาธารณสุขไทยได้อย่างไร และช่วยต่อยอดโอกาสทางธุรกิจเฮลท์แคร์ได้อย่างไร

Table of Contents
Key Takeaways
Health Information Exchange (HIE) คือ ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพระหว่างโรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาลต่าง ๆ อย่างปลอดภัยตามมาตรฐาน กฎหมาย และข้อบังคับ
HIE ทำให้ข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยเข้าถึงได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ป่วยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายจากการตรวจซ้ำ และได้รับการรักษาที่ต่อเนื่องและแม่นยำขึ้น บุคลากรทางการแพทย์ใช้ข้อมูลที่เชื่อมโยงกันเหล่านี้เพื่อวินิจฉัย วางแผนการรักษา และติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
คุณอาจจะเคยสงสัยว่าทำไมเวลาที่เราเปลี่ยนโรงพยาบาลใหม่ เราถึงต้องไปขอข้อมูลประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิม ซึ่งทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายด้วย ผลลัพธ์ปลายทางของ Health Information Exchange หรือ HIE จึงถูกสร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วย
แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วประโยชน์ของ HIE ไม่ได้มีเพียงเท่านี้หรอกนะ เรามาดูกันดีกว่าว่าจริง ๆ แล้ว HIE สามารถทำอะไรได้อีกบ้าง?
ระบบ HIE คืออะไร?
ระบบ HIE ย่อมาจากคำว่า Health Information Exchange คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพที่ช่วยให้ผู้ให้บริการด้านสุขภาพสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็วไร้รอยต่อ
ในขณะเดียวกันข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยก็ยังคงมีความปลอดภัย ทั้งในแง่ของความเป็นส่วนตัวที่ผู้ป่วยต้องมีการให้ความยินยอม (Consent) ในการเข้าถึงข้อมูล และการเข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption) เพื่อทำให้ข้อมูลเป็นความลับ รวมไปถึงแง่ของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลจากการโจมตีทางไซเบอร์ (Cyber Security) ด้วยการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ
ประโยชน์ของนำระบบ HIE เข้ามาใช้ในสถานพยาบาล ?
1. สามารถเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้ป่วยได้
เมื่อเราสามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องไม่ต้องผลักภาระให้ผู้ป่วยกลับไปติดต่อกับโรงพยาบาลเก่าเพื่อขอประวัติการรักษาอีกต่อไป ผู้ป่วยจึงได้รับความสะดวกสบาย ประหยัดทั้งเงินและเวลา และได้รับการรักษาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เมื่อมีประวัติการรักษาแล้ว แพทย์ที่ทำการรักษาก็สามารถใช้ประกอบการตัดสินใจในการรักษาได้ ทำให้สามารถวินิจฉัยและรักษาได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงลดขั้นตอนการตรวจซ้ำ หรือแม้แต่การจ่ายยาซ้ำซ้อน หรือยาที่แพ้ และลดการจ่ายยาผิดพลาด ซึ่งนอกจากจะทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ป่วยอีกด้วย
2. สามารถเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)
สถานพยาบาลสามารถเข้าถึงบิ๊กดาต้าจากผู้ป่วยที่ให้ความยินยอม ซึ่งอาจนำข้อมูลเหล่านี้ไปต่อยอดการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลในด้านต่าง ๆ ได้ เช่น การเพิ่มศักยภาพการรักษาพยาบาล การเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร การใช้ประโยชน์ทางการตลาด เป็นต้น
ระบบ HIE กับการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แรกเริ่มเดิมทีระบบ HIE อาจถูกพัฒนามาเพื่อรองรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลปริมาณมหาศาลเท่านั้น แต่แน่นอนว่ายังมีแนวทางอีกมากมายที่เราสามารถต่อยอด ระบบ HIE ให้สามารถสร้างประโยชน์ได้มากกว่าแค่การแลกเปลี่ยนข้อมูล MEDcury ขอยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเคสนี้
Healthix เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีข้อมูลของผู้ป่วยมากกว่า 20 ล้านคนจากสถานพยาบาลมากกว่า 8,000 แห่ง ซึ่งนอกจากจะเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยระหว่างสถานพยาบาลแล้ว
Healthix ยังได้นำข้อมูลจากผู้ป่วยที่ให้ความยินยอมมาพัฒนาต่อยอดระบบเป็น Healthix Analytics ที่แสดงผลการวิเคราะห์ของข้อมูลทางคลินิก การพบแพทย์ และปัจจัยทางด้านสังคมที่มีผลต่อสุขภาพ เช่น ระดับการศึกษา รายได้ครัวเรือน ความครอบคลุมของประกัน หรือแม้แต่การถือสัญชาติอเมริกา เป็นต้น
โดยใช้อัลกอริธึมความเสี่ยงต่าง ๆ แล้วแสดงผลในรูปแบบ Dashboard รวมถึงตัวเลขคะแนนความเสี่ยง และรายงานเพื่อสนับสนุนการจัดการในด้านต่าง ๆ ได้แก่
การบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพของประชากรและผู้ป่วย (Population Health and Patient Risk Management) ที่ช่วยระบุว่าผู้ป่วยมีแนวโน้มจะเป็นโรคร้ายแรงสูงหรือเพิ่มขึ้นหรือไม่ เช่น หัวใจวาย เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
การจัดการการกลับเข้ามารับการรักษาซ้ำใน 30 วัน (30 Days Readmission Management) ที่ช่วยคาดการณ์แนวโน้มที่ผู้ป่วยจะกลับมาเข้ารับการรักษาซ้ำในฐานะผู้ป่วยในหรือกลับมาที่แผนกฉุกเฉินภายใน 30 วัน
พูดง่าย ๆ คือ Healthix Analytics เข้ามาช่วยทำให้สถานพยาบาลสามารถเข้าถึงผู้ป่วยในเชิงรุกและจัดการดูแลเพื่อป้องกันโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการมาตรวจที่แผนกฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น
นอกจากนี้สถานพยาบาลยังสามารถเตรียมพร้อมตัวเองสำหรับการดูแลสุขภาพที่เน้นคุณค่า (Value-based care) ทำให้ผู้ป่วยพึงพอใจในการบริการและการรักษามากยิ่งขึ้นอีกด้วย ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรได้อย่างดีเยี่ยม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Health Information Exchange (HIE)
1. HIE (Health Information Exchange) คืออะไร?
HIE คือ ระบบที่ช่วยให้โรงพยาบาล คลินิก และหน่วยงานสุขภาพ เชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย ทำให้แพทย์และผู้ป่วยเข้าถึงประวัติการรักษาได้ทุกที่ แม้ย้ายสถานพยาบาลที่รับบริการ
2. HIE (Health Information Exchange) มีประโยชน์อะไรบ้าง?
HIE ทำให้การรักษาต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะแพทย์เห็นข้อมูลและประวัติผู้ป่วยครบถ้วน ลดความผิดพลาด ลดการตรวจซ้ำ และช่วยให้ตัดสินใจรักษาได้เร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังรองรับการดูแลแบบดิจิทัล เช่น Telemedicine
3. HIE (Health Information Exchange) ทำงานอย่างไร?
ระบบ HIE จะดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น ระบบ HIS (Hospital Information System) ระบบ EMR (Electronic Medical Record) หรือข้อมูลจากห้องปฏิบัติการ แล้วจัดรูปแบบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น มาตรฐาน HL7 FHIR จากนั้นจึงส่งข้อมูลให้สถานพยาบาลที่มีสิทธิ์การเข้าถึงตามที่กำหนดไว้
4. HIE (Health Information Exchange) แลกเปลี่ยนข้อมูลอะไรได้บ้าง?
ข้อมูลที่แลกเปลี่ยนผ่านระบบ HIE ได้มีทั้งประวัติการรักษา ยาและการแพ้ยา ผลตรวจแล็บ ผลเอกซเรย์ บันทึกวินิจฉัย ใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ และสรุปการจำหน่ายผู้ป่วย ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถานพยาบาล เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีข้อมูลสำหรับดูแลผู้ป่วยอย่างครบถ้วน
5. ใครที่เข้าถึงข้อมูลในระบบ HIE (Health Information Exchange) ได้บ้าง?
ผู้ที่เข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยในระบบ HIE มีเฉพาะแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลได้ โดยต้องมีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วย และทุกครั้งที่มีการเข้าถึง ระบบจะบันทึกไว้เพื่อความปลอดภัย
จากตัวอย่างที่เรายกมาพอจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ ว่าระบบ HIE ไม่ได้มีประโยชน์แค่กับตัวผู้ป่วยเองเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์กับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ รวมถึงผู้บริหารหรือทีมพัฒนาธุรกิจโรงพยาบาลอีกด้วย และที่สำคัญที่สุดคือเราสามารถต่อยอดระบบ HIE เพื่อสร้างประโยชน์ได้อีกมากมายเลยล่ะ
สำหรับใครที่อยากพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านสุขภาพ สามารถพูดคุยกับพวกเรา MEDcury ได้ที่
โทรศัพท์ : 02-853-9131 (ในเวลาทำการ 10:00 - 18:00 น. วันจันทร์ - วันศุกร์)
อีเมล: sales@medcury.health
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MEDcury จากช่องทางอื่น
Facebook: facebook.com/medcury.health/
LinkedIn: linkedin.com/company/medcury
YouTube: https://www.youtube.com/@MEDcury
อ้างอิงข้อมูลจาก



